ในปัจจุบันคนส่วนใหญ่หันมาใช้งาน หลอดไฟ LED มากขึ้นเนื่องจากช่วยในเรื่องของการประหยัดค่าไฟฟ้า และมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน สว่างทันทีที่เปิด และยังเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอีกด้วย ซึ่งมีประโยชน์มากกว่าหลอดไฟแบบธรรมดาอย่างแน่นอน ประโยชน์มากขนาดนี้หากใครไม่หันมาเปลี่ยนใช้หลอดไฟแบบ LED ก็คงจะเชยไปซะแล้ว ว่าแต่เราจะเปลี่ยนหลอดไฟ LED อย่างไรให้เหมาะสมกับการใช้งานดีล่ะ เลือกหลอดไฟ LED อย่างไรให้เหมาะสมกับการใช้งาน?

1. เลือกหลอดไฟจากระดับแสงสว่างที่ต้องการจะใช้ ( Lumen : ลูเมน ) หลอดไฟLEDนั้นมีปริมาณแสงสว่างที่แตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับความต้องการของคุณว่าต้องการใช้ระดับแสงสว่างขนาดไหน เพราะห้องแต่ละห้องนั้นก็ต้องการความสว่างที่ไม่เท่ากันบางห้องสว่างมากบางห้องสว่างน้อย ซึ่งหากเป็นหลอดไฟ LED (หลอดแอลอีดี) ของ INFINITE LED จะถูกออกแบบมาให้ใช้กำลังวัตต์น้อยแต่ให้ค่าความสว่าง (Lumen : ลูเมน ) ที่สูงหากเปรียบเทียบกว่ากับยี่ห้อที่วางขายในตลาด

2. เลือกสีของหลอดไฟ LED (หลอดแอลอีดี) สามารถเลือกได้จากอุณหภูมิสี อุณหภูมิสีมีหน่วยเป็นเคลวิน (K) สีของหลอดไฟ LED (หลอดแอลอีดี) นั้นจะมีอยู่ 3 แบบคือ Warm White Cool White และ Daylight ยิ่งค่า K ต่ำแสงที่ได้จะออกสีส้ม หากค่า K สูง แสงที่ได้ก็ยิ่งออกไปทางสีขาว โดยการให้แสงทั้ง 3 แบบนั้นจะให้อารมณ์ที่ต่างกันขึ้นอยู่กับการใช้งาน

3. เลือกจากชนิดของหลอดไฟ (หลอดแอลอีดี) หลอดไฟของ INFINITE LED มีผลิตภัณฑ์ LED (หลอดแอลอีดี) หลากหลายเช่น หลอด T8 หลอด T5 ไฮเบย์ LED โคมไฟถนน LED โคมไฟฟลัดไลท์ หลอดกลม E27 ซึ่งไม่จำเป็นต้องใช้บัลลาสต์ สตาร์ตเตอร์ ดังนั้นคุณสามารถที่จะเปลี่ยนหลอดไฟ LED (หลอดแอลอีดี) ทดแทนหลอดไฟแบบเดิมได้โดยที่คุณไม่ต้องเปลี่ยนอุปกรณ์เดิมเลย ซึ่งเหมาะสมมากกับการใช้งานในยุคปัจจุบันที่ต้องการความสะดวกสบายและประหยัดไปได้อีกมากเลยทีเดียว

หลอดไฟ LED (หลอดแอลอีดี) ของ INFINITE LED มีคุณภาพได้มาตรฐาน มอก. LM79 , LM80 TM21 คุณจึงมั่นใจได้ถึงมาตรฐาน ความคุ้มค่า ความปลอดภัยและมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน คุ้มค่ากับการลงทุน ที่สำคัญมีผลการทดสอบรับรองจากห้อง LAB ที่ได้มาตรฐาน สามารถ Customized ตามสเปคที่โครงการต้องการได้ อย่าลืมเปลี่ยนมาใช้หลอดไฟ INFINITE LED เพื่อ